คุณมีคะแนนเครดิต (Credit Score) เท่าไหร่? ตรวจสอบได้ รู้ผลใน 15 นาที

เลือกอ่านตามหัวข้อ
    Add a header to begin generating the table of contents
    ในสถานการณ์โควิด– 19 ที่ยังระบาดอยู่ มีหลายคนที่ได้ผลกระทบจากการระบาดครั้งนี้ จึงส่งผลไปถึงเรื่องการเงิน สำหรับวิกฤตครั้งนี้ ทำให้สถาบันการเงิน เข้มงวดมากขึ้นในการปล่อยสินเชื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบ้าน รถ บัตรเครดิต หนึ่งในปัจจัยที่สถาบันทางการเงินใช้มาเป็นเกณฑ์ตัดสินใจในการปล่อยสินเชื่อ นั้นก็คือเครดิตบูโร
    ทุกครั้ง ๆ ที่เราทำการขอสินเชื่อ มักจะได้ยินคำว่า ประวัติการเงินดีไหม เคยติดบูโรหรือไม่ วันนี้ TRD (The Richest Duck) จะพาทุกท่านมารู้จักกับเครดิตบูโรกันครับ

    เครดิตบูโร กับ Credit Score คือะไร

    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเครดิตบูโร กับ Credit Score กันก่อนครับ
    เครดิตบูโร คือ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการชำระหนี้ทั้งหมดของแต่ละคน กับสถาบันทางการเงินที่เป็นสมาชิก ของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) ได้นำมารวบรวมประวัติสินเชื่อทั้งหมด ที่เราเคยมีมา ไม่ว่าจะเป็นการขอกู้บ้าน รถ หรือบัตรเครดิต ทั้งใบเก่าและใบใหม่ เรียกได้ว่า ถ้าสถาบันทางการเงินไหนขอดูรายงานข้อมูลเครดิตเรา ก็จะเห็นประวัติสินเชื่อและพฤติกรรมการชำระหนี้ของเราทั้งหมดย้อนหลัง 3 ปี ทุกบัญชีสินเชื่อ ไม่เว้นแม้แต่บัญชีที่ได้ปิดไปแล้ว
    ส่วนสำหรับ Credit Score เป็นผลประเมินทางสถิติของเราเอง โดยวัดจากประวัติการก่อหนี้และชำระหนี้ของตัวเราเองในอดีตออกมาเป็นผลประเมิน โดยคะแนนเครดิตจะดีหรือแย่นั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ยอดหนี้คงเหลือ จำนวนบัญชีที่พึ่งเปิด จำนวนเงินคงค้าง ฯลฯ ซึ่งบริษัทจะนำปัจจัยเหล่านี้มาคำนวน จึงออกมาเป็น credit score ซึ่งเครดิตสกอร์ยิ่งสูงยิ่งดี นั้นหมายความว่าทางสถิติคุณมีโอกาสสูงมาก ๆ ที่จะชำระหนี้คืนภายในอีก 12 เดือนข้างหน้า พูดง่าย ๆ ก็คือโอกาสที่คุณผิดชำระหนี้มีน้อยนั้นเอง

    เช็คเครดิตบูโรแบบสรุป

    ในครั้งนี้ผมและทีมงาน TRD ได้ทำการขอรายงานข้อมูลเครดิตแบบละเอียดและแบบสรุปเพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน โดยการขอเครดิตบูโรหรือ Credit Scoring ต้องเป็นเจ้าตัวเท่านั้นนะครับในการยื่นขอ ไม่สามารถยื่นขอแทนกันได้
    เช็คเครดิตบูโรแบบสรุป สามารถขอได้ฟรี 3 ช่องทาง
    1. ที่ทำการไปรษณีย์
    2. แอพ “ทางรัฐ”
    3. รายงานจากตู้ Goverment Smart Kiosk สามารถดูจุดติดตั้งได้ที่ https://www.dga.or.th/document-sharing/infographic/36143/
    โดยการเช็คแบบสรุป ผมและทีมงานขอผ่านทางตู้ Goverment Smart Kiosk ในขั้นตอนแรกต้องลงทะเบียนทางรัฐที่ตู้ก่อน หลังจากนั้นให้เลือกเครดิตบูโร และกดตามขั้นตอนได้เลย จากนั้นเครื่องก็จะพิมพ์สลิปเครดิตบูโรแบบสรุปมาให้ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที รวมกรอกข้อมูลครับ
    ข้อมูลเครดิตบูโรแบบสรุป ข้อมูลตามภาพเลยครับ หลังจากดูรายละเอียดแล้วเข้าใจว่า วงเงินสินเชื่อรวม น่าจะเป็นยอดที่เกินความเป็นจริง เพราะเป็นการนำวงเงินบัตรเครดิตมารวมกันทั้งหมด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว บัตรแต่ละใบอาจมีการแชร์วงเงินเดียวกัน พอรวมยอดทุกใบอาจจะทำให้มากกว่าความเป็นจริง และตัวเลขจะแสดงแค่ตัวหน้าตัวเดียวเท่านั้น ด้วยรวมเป็นการสรุปยอดต่าง ๆ แบบคร่าว ๆ เท่านั้นครับ

    เช็คเครดิตบูโรแบบละเอียด + Credit Scoring

    หลังจากที่ได้ลองแบบสรุปไปแล้ว ผมจึงได้ทำการขอรายงานข้อมูลเครดิตแบบละเอียด และ เครดิตสกอริ่งเพื่อมาเปรียบเทียบทันกันดู ในส่วนของแบบละเอียดและ Credit Scoring จะมีค่าขอรายงานอยู่ 200 บาทครับ ซึ่งทุกวันนี้มีหลายช่องทางในการขอเช็คเครดิตบูโร
    ส่วนตัวผมเลือกใช้แอป KKP (ธนาคารเกียรตินาคิน) เพราะว่าจะได้รับรายงานทาง email ทันที และผมยังให้ทีมงาน TRD ลองขอกับ MYMO (ธนาคารออมสิน) ซึ่งใช้เวลารอประมาณ 2 ชั่วโมงครับ
    Remark : ก่อนที่ทุกคนยื่นขอเครดิตบูโรหรือทำธุรกรรมต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชน ผ่านช่องทางออนไลน์ ต้องทำการลงทะเบียน NDID ก่อน ซึ่งเป็นการยืนยันตัวตนในรูปแบบดิจิทัล สามารถไปทำที่ธนาคารหรือ ตู้ ATM (เฉพาะบางธนาคารเท่านั้น)
    ผลรายงานเครดิตแบบละเอียด
    ในรายงานเครดิต หน้าแรกจะแสดงข้อมูลส่วนตัว และจำนวนบัญชีสินเชื่อ ส่วนหน้าถัดมาจะเป็นรายละเอียดของแต่ละบัญชีค่อนข้างละเอียดบอกตั้งแต่วันที่เปิดใช้บัญชี จ่ายครั้งล่าสุดเท่าไร และบอกรายละเอียดค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนของบัญชีนั้น ๆ ย้อนหลังถึง 3 ปี รวมถึงยังบอกถึงสถานะบัญชี สำหรับสถานะบัญชีวัดจากรอบล่าสุดที่ทำการจ่ายหนี้เท่านั้นในส่วน Credit Scoring จะแทรกอยู่ระหว่าง บัญชีหนี้สิน จะมีการวัดเกรดระดับ สูงสุดที่ AA ไปจนถึงต่ำสุดที่ HH

    ตัวอย่างเครดิตสกอริ่ง

    ทาง TRD ได้นำตัวอย่างมาให้ 4 Case ในโปรไฟล์ที่แตกต่างกัน เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัด ๆ ครับ
    Case 1 : คุณ Z มีสินเชื่อบ้าน 1 บัญชี, สินเชื่อบุคคล 1 บัญชี, มีบัตรเครดิต 32 ใบ จ่ายครบเต็มจำนวนทุกครั้งไม่เคยเกินกำหนด คะแนนอยู่ในระดับ AA พอดี ถึงแม้จะจ่ายเงินเต็มจำนวน และตรงตามรอบทุกครั้ง
    แต่ด้วยภาระหนี้ที่มีค่อนข้างสูง ถูกมองว่ายังมีความเสี่ยงอยู่ จึงทำให้คะแนนลดลงจนเกือบจะหล่นไประดับ BB แล้ว
    รูปภาพเอกสารตัวอย่างบางส่วน
    Case 2 : คุณ B ไม่มีหนี้สินใด ๆ เช่นกัน มีบัตรเครดิต 1 ใบจ่ายครบเต็มจำนวนทุกครั้งไม่เคยเกินกำหนด คะแนนอยู่ในระดับ AA ซึ่ง ณ วันที่ขอรายงานเครดิต คุณ B กำลังอยู่ในช่วงยื่นเรื่องกู้สินเชื่อบ้านอยู่ จึงทำให้มีการสืบค้นข้อมูลบ่อยครั้งมีผลกับคะแนน
    อีกหนึ่งปัจจัยที่หลายคนมองข้าม คือ การมีประวัติสินเชื่อค่อนข้างจำกัด ก็มีผลกับคะแนนเช่นกัน นั้นหมายความว่าเราควรจะมีบัตรเครดิต หรือมีสินเชื่ออยู่บ้าง เพื่อให้ NCB สามารถรวบรวมข้อมูลมาประมวลผล
    รูปภาพเอกสารตัวอย่างบางส่วน
    Case 3 : คุณ A ไม่มีหนี้สินใด ๆ นอกเหนือจากบัตรเครดิตที่มีอยู่จำนวน 4 ใบ จ่ายครบเต็มจำนวนทุกครั้งและไม่เคยเกินกำหนด วันที่ขออยู่ในช่วงตัดยอด ซึ่งยังไม่ได้จ่ายบิลบัตรเครดิตในรอบปัจจุบัน จึงทำให้ภาระหนี้รวมคงค้างสูง แต่ผลรวมที่ออกมาก็ยังมีคะแนนที่สูงกว่า คุณ B ที่มีบัตรเครดิตใบเดียว
    รูปภาพเอกสารตัวอย่างบางส่วน
    Case 4 : คุณ N มีสินเชื่อบ้าน 1 บัญชี, สินเชื่อบุคคล 2 บัญชี, มีบัตรเครดิต 3 ใบ สำหรับบัตรเครดิตส่วนใหญ่จะจ่ายขั้นต่ำแต่ก็ไม่เคยผิดนัดชำระ เป็นผลดีกับเครดิตสกอร์ แถมสถานะบัญชี ยังปกติอีกด้วย แต่ผมก็ไม่แนะนำให้ทำนะครับ เพราะดอกเบี้ยค่อนข้างสูง และนั้นหมายความว่าคุณกำลังมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ พอมาดูผลรวมแล้วจะอยู่ที่ CC เนื่องด้วยภาระหนี้สินค่อนข้างสูง

    สรุป

    เครดิตสกอร์ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ที่ได้กล่าวไปข้างต้น จะเห็นได้ว่าตัวอย่างที่เรานำมาเปรียบเทียบนั้นจะมีคะแนนที่ดีเนื่องจาก ไม่เคยผิดนัดชำระหนี้ ส่วนตัวอย่างที่4 อาจจะเป็นเพราะชำระขั้นต่ำบ่อยครั้ง บวกกับเพิ่งขอสินเชื่อบ้านไป จึงทำให้ภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้คะแนนเครดิตได้ CC แต่ถึงอย่างไรแล้ว ถ้าเราดูจากสถิติจะเห็นความแตกต่างจากระดับ AA เพียง 4%เท่านั้นของความน่าจะเป็นในการชำระหนี้คืน เพราะฉะนั้นการจ่ายสินเชื่อตามกำหนดมีความสำคัญมาก และถ้าเป็นไปได้ควรจ่ายให้เต็มจำนวน เพื่อทำให้เครดิตเราดีนั้นเอง
    สรุปได้ว่า เครดิตบูโร หรือ Credit Scoring ไม่ได้วัดจากเงินในบัญชี แต่จะวัดจากประวัติการจ่ายหนี้สินในอดีต ทำไมวันนี้ the richest duck ถึงชวนทุกคนมาตรวจเครดิตของตัวเอง เพราะว่าเครดิตสกอร์เป็นคะแนนที่วัดออกมาเข้าถึงแหล่งเงินกู้ เช่น หากคะแนนคุณออกมาอยู่ใน ระดับ AA นั้นเป็นการเพิ่มโอกาสในการ ผ่านการกู้สินเชื่อ แต่ก็ไม่ได้การรันตีทั้งหมด เพราะเครดิตบูโรเป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้ปล่อยสินเชื่อในการประกอบการตัดสินใจเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกขึ้นอยู่แต่ละสถาบันการเงิน
    สุดท้ายนี้ TRD ขอฝาก Quote สั้น ๆ เกี่ยวกับเครดิตนะครับ

    IF you don't take good care of your credit , then your credit won't take good care of you.

    ขอบคุณที่ติดตาม

    Leave a Comment

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

    Scroll to Top