จำนวนคนดู : 854
ในปัจจุบันของยุค 4.0 ทุกคนต่างมี Social Account สำหรับสร้างรายได้ผ่านโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น เฟซบุ๊คเพจ, เว็ปไซต์, บล็อก โซเชี่ยลมีเดีย ต่าง ๆ รวมไปถึงธุรกรรมทางการเงินออนไลน์อย่าง เช่น Internet Banking, PayPal แต่เราเคยคิดกันบ้างหรือไม่ว่า ถ้าวันหนึ่งเราหรือคนที่รักจากไปเท่ากับว่าบัญชีออนไลน์ต่าง ๆ เหล่านี้จะถูกทิ้งปิดตาย ทั้ง ๆ มีทรัพย์สินดิจิตอลมากมายอยู่ในนั้น แล้วจะต้องทำอย่างไร ลองมาดูกัน
วันนี้ The Richest duck (TRD) ขอเสนอวิธีจัดการกับมรดกทั้งในโลกจริงและโลกดิจิตอล แบบง่ายสุด ๆด้วย Google ไม่มีค่าใช้จ่ายและไม่ต้องมีตัวช่วยใด ๆ นอกจาก Google account ธรรมดา ๆ ครับ
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า วิธีการนี้จะไม่กล่าวถึงเรื่อง ทายาท พินัยกรรม หรือข้อ กฎหมายใด ๆ นะครับ
วิธีนี้สามารถจัดการมรดกทางโลกดิจิตอลของเราได้แทบทั้งหมด เช่น Google Account, Facebook, Social Network, Cryptocurrency และอื่น ๆ
ส่วนมรดกในโลกจริง นั้นจะสามารถทำได้แค่บอกให้ทราบว่าเรามี ทรัพย์สินอยู่ที่ใดบ้าง ซึ่งถ้ามรดกที่ไม่ได้เป็นทรัพย์สินมีตัวตน (เช่น สิทธิบัตร) หรือทรัพย์สินมีตัวตนที่ต้องลงทะเบียนตามกฎหมาย (เช่น รถยนต์) คงต้องให้ผู้รับมรดกตามสิทธิ์ของกฎหมาย หรือผู้จัดการมรดกเข้ามาจัดการนะครับ แต่ก็สามารถบอกรหัสตู้เซฟเพื่อเอาไปเปิดแล้วนำทรัพย์สินออกมาได้นะครับ หรือบอกที่ซ่อนสมบัติ (อันนี้ลึกลับเหมือนนิยายเลย)
ขอบคุณรูปภาพจาก https://unsplash.com/
ปัญหาของเรื่องมรดกในปัจจุบัน
1. ในโลกดิจิตอล ถ้าคนที่เรารักจากไป เราจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลทาง Digital ของเค้าได้ง่าย ๆ เลยครับ ซึ่งมันก็น่าเสียดาย บางครั้งมันคือความทรงจำ บางครั้งมันก็มีค่าทางการเงิน เช่น Facebook Page ขายของที่มียอดติดตาม หลักล้าน หรือ Youtube Channels ที่มียอดซับหลักล้าน
2. ในโลกจริง ปัญหาใหญ่คือเราไม่ทราบว่าคนที่เรารัก หรือคุณพ่อ คุณแม่ นั้นมีทรัพย์สมบัติอยู่ที่ใดบ้าง, เคยได้ยินใช่ไหมว่า บัญชีธนาคารที่ยังคงค้าง แต่จริง ๆ แล้วเจ้าของบัญชีเสียชีวิตแล้วมีมากมายเหลือเกิน อีกทั้งการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียชีวิต ทำได้ค่อนข้างยากมากครับ แต่ถ้าเราเข้า Internet Banking ของผู้เสียชีวิต โดยใช้ OTP จากเบอร์มือถือ จะทำได้ง่ายมากครับ
ขอบคุณรูปภาพจาก https://unsplash.com/
วิธีการเตรียมความพร้อมเบื้องต้น
1.โลกดิจิตอล ผมแนะนำให้สรุปข้อมูล Username Password ของ account ต่าง ๆ ไว้ในไฟล์ excel เข้ารหัส
(ในส่วนนี้อนาคต ผมจะมาขยายความให้อีกทีนะครับ) จากนั้นอัปโหลดไฟล์นี้ใส่ใน Google Drive ของเรา ดังนั้นนี่คือการป้องกันความปลอดภัย 3 ชั้นในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่นะครับ
-
ขั้นที่ 0 ต้องรู้ก่อนเลยว่าเราเก็บ ข้อมูลสำคัญนี้ไว้ที่ Google Account ไหนกันแน่
-
ขั้นที่ 1 ต้องเข้า Google Account เราให้ได้ก่อน
-
ขั้นที่ 2 จากนั้นต้องถอดรหัส Excel Lock Workbook ให้ได้อีกโดยรวมก็ถือว่ามีความปลอดภัยพอสมควรครับ
2. ในโลกจริง ให้เราเอาข้อมูลของสินทรัพย์ทั้งหมดของเราใส่เป็นลิสต์ไว้ใน Excel เข้ารหัส (ในส่วนนี้อนาคต ผมจะมาขยายความให้อีกทีนะครับ ขอติดไว้ก่อน) จริงๆแล้วใช้ไฟล์ เดียวกับข้อ 1 หรือแยกกันก็ได้ ที่เหลือก็ทำเหมือนกันข้อ 1 เลยครับ
*** ตอนนี้แปลว่า เมื่อวันที่เราจากไปคนที่อยู่เบื้องหลังเราจะเข้าถึง มรดกทางดิจิตอลทั้งหมด และรู้ถึงมรดกในโลกจริง ว่าเรามีทรัพย์สมบัติใดๆ และอยู่ที่ไหนแล้วนะครับ
♦ note: อย่าลืมใส่รหัสเข้ามือถือเราไว้ใน Excel ด้วยนะครับ เพราะการเข้า User account ต่างๆ มักจะใช้ OTP จากมือถือ แต่หากเราได้จากไปพร้อมมือถือ เช่น เครื่องบินตก ผู้รับมรดกตาม กฎหมายน่าจะติดต่อผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ครับ
วิธีการจัดการโดยใช้ Google เป็นตัวช่วย
Step: 1-4) ทำตามขั้นตอนในรูปภาพเลยนะครับ
-
ก่อนอื่นเข้าไปที่ https://myaccount.google.com
Step 5) เมื่อเราไม่ใช้ Google account นี้เลยเป็นเวลา เช่น 3 เดือน Google จะส่งข้อความมาหาเราที่เบอร์โทร และแจ้งเตือนทางอีเมลหลายครั้งก่อนถึงเวลาครบ 3 เดือนนะครับ (ดูตามรูปได้เลย) และสามารถส่งแจ้งเตือนไปที่อีเมลใด ๆ ก็ได้นะครับ
ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าเราจะลืมเข้า Google account จนทำให้ Google ส่งข้อมูลที่เราเตรียมไว้ไปหาคนที่เรารัก ในขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่ (บางครั้งเราก็อาจจะมีความลับที่ยังไม่อยากเปิดเผย หากเรายังมีชีวิตอยู่)
Step 6) ให้ตั้งค่าครับว่าเราจะให้ส่งข้อความ (send message after you dead) ไปหาใครบ้าง และ Share Google account นี้ให้กับใครบ้าง , คือเหมือนเป็นการยก account ให้เลยนะครับ ,แต่เราเลือกได้ว่าจะยกอะไรให้บ้าง เช่น ให้เข้าถึง youtube แต่ไม่ให้เข้าถึง Gmail แบบนี้ก็ได้ครับ
-
แนะนำว่าถ้ามีคนไว้ใจได้หลายคน เช่น มีลูกหลายคนให้ส่งหาหลายๆคน เผื่อมีคนใดไม่ได้เปิดอ่านนะครับ
-
ซึ่งจริงๆแล้วถ้าเราไม่อยากพูดเรื่องนี้ในวันที่เรายังมีชีวิตอยู่ ก็ไม่ต้องบอกก็ได้ครับ แต่ต้องมั่นใจว่าคนที่เราส่งข้อความไปให้เค้าจะเช็คเมลเรื่อยๆนะครับ ไม่งั้นต้องแจ้งไว้ล่วงหน้า
-
และคนที่เราส่งไปหาแต่ละคนเราสามารถแนบข้อความส่วนตัวไปหาได้ครับ
ยกตัวอย่าง: เมื่อลูกได้รับข้อความนี้พ่อได้จากไปแล้ว
-
พ่อขอให้ลูก……….
-
เรื่องงานและผู้คนในบริษัทของเรา ฝากดูแลต่อและดูแลทุกคนรวมถึงลูกค้าเหมือนตอนที่พ่อยังอยู่
-
ทรัพย์สมบัติต่างๆ พ่อได้ใส่ไว้ให้ใน excel หมดแล้ว รหัสเข้า Google account ของพ่อคือ abc และรหัสเข้า excel คือ xyz
-
สมบัติ 50% หลังจากรวบรวมเรียบร้อยให้บริจาคให้กับมูลนิธิ bill & melinda gates foundation และอีก 50% ให้ลูกเก็บไว้
-
คำสุดท้ายที่พ่ออยากฝากไว้คือ ขอให้ลูกสู้ต่อไป ลูกจะไม่มีวันแพ้ หากลูกไม่มีวันยอมแพ้
-
รักจากพ่อ……….
Step 7 สุดท้าย) ทำตามลำดับของ Google ไปเรื่อย ๆ ครับ เมื่อครบกำหนดที่ตั้งไว้ เช่น 3 เดือน ผู้ที่เราระบุอีเมลไว้จะได้รับข้อความแบบนี้ครับ
ข้อควรทราบ
-
ขั้นต่ำสุดที่ทำได้คือ 3 เดือน ดังนั้นแปลว่าหากคุณเสียชีวิตไปยังไม่ครบ 3 เดือนจะไม่มีใครเข้า Google account คุณได้ นั่นแปลว่าระหว่างนี้ หากมีงานด่วน เช่น ในบริษัทต้องจัดการข้อมูลสำคัญ คนอื่นจะยังเข้าไม่ได้ครับ
-
ใช้กับ Google account workspace ไม่ได้ ให้แก้โดยไปสมัคร Google account ปกติแทน
-
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ลองคิดวิธีประยุกต์ใช้ตามเหมาะสมได้เลยครับ
-
ให้ระวังเรื่องการแบ่งมรดกไว้หน่อยครับ เนื่องจากหากเป็นเงินในบัญชีธนาคารที่มี Online Banking แปลว่าผู้ที่ได้รับข้อความและเข้าถึงข้อมูล excel รวมถึงมือถือได้ก่อนก็จะสามารถถอนเงินออกได้ก่อนเลยครับ แนะนำว่าอาจแก้ไขโดยการแยก ข้อความที่ส่งไปหา โดยมี Password ของ excel คนละไฟล์กัน และแยก file excel สำหรับผู้รับมรดกแต่ละคนไปเลย