แชร์ประสบการณ์ ตรวจคอนโด ด้วยตัวเองแบบมืออาชีพ ละเอียดทุกจุด!!

เลือกอ่านตามหัวข้อ
    Add a header to begin generating the table of contents

    เกริ่นนำ

    การลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ สำหรับอยู่เองหรือเอามาใช้ในการลงทุนต่อ แน่นอนว่าต้องเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องใฝ่ฝันที่จะมีอย่างแน่นอน และในวันนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีมากในการเริ่มต้นปีใหม่นี้ ทาง TRD เองก็ได้มีการลงทุนซื้อคอนโดมาใหม่เช่นกันครับ โดยในวันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์การตรวจคอนโดด้วยตัวเองแบบละเอียดครบทุกขั้นตอน จะมีตรวจอะไรบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลยครับ

    แสนสิริ The LINE พหลโยธิน พาร์ค คอนโด

    โดยหลังจากที่ผมเลือกหามาหลายที่ ก็มาลงเอยที่ “The Line พหลโยธิน พาร์ค” คอนโดแบบ High Rise ของ แสนสิรินั่นเอง โดยตัวโครงการตั้งอยู่ใกล้ห้าแยกลาดพร้าว โดยจับมือร่วมกันกับ BTS โดยที่เด่นที่สุดก็คือส่วนกลางที่ให้มาครบครันจัดเต็มมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟิตเนส, สระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าแบบเปิดรับวิวเมือง และอื่นๆ
         ในตัวโครงการก็มีทั้งแบบ 1 Bedroom , 2 Bedroom และแบบ Duplex ด้วยนะครับ (ในการซื้อครั้งนี้ TRD ก็เลือกเป็นแบบ 2 Bedroom ชั้น 31 ชั้นบนสุดเลย)  ห้องที่ TRD ซื้อจะเป็นขนาด 57.77 ตร.ม ซึ่งจะมีแค่หัวมุมของอาคารเท่านั้น เรียกได้ว่าทั้งชั้นจะมีห้องแบบเราแค่เพียง 2 ห้องนั่นเอง
    ภาพแผงผังห้องของ TRD
    ขอบคุณภาพจาก thinkofliving.com
    กลับมาที่การตรวจคอนโดกันต่อ ต้องบอกก่อนว่าในการตรวจทั้งหมดในวันนี้ เราจะมีการตรวจงานพื้น, งานผนัง ,งานประตู ,งานห้องน้ำ ,งานระเบียง ,งานเฟอร์นิเจอร์ นะครับ
    โดยอุปกรณ์ที่ใช้ทั้งหมดในวันนี้ประกอบไปด้วย
    1.กล้องถ่ายรูป หรือ กล้องจากโทรศัพท์มือถือ
    2.ไม้วัดระดับ
    3.กระดาษ Post it หลายๆสี
    4.ลูกแก้ว (สำหรับเช็คความชัน)

    เริ่มตรวจงานพื้นทุกห้อง

    รูปภาพภายในห้องนั่งเล่น
    เริ่มตรวจจากห้องนั่งเล่น
    โดยอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ในงานตรวจพื้น ก็จะใช้เป็นไม้วัดระดับ และ ลูกแก้วเล็กๆ ที่เราหาซื้อได้ทั่วไป เพื่อวัดความลาดเอียง โดยในการตรวจก็ค่อยๆวางและเช็คดูว่ามีระดับที่พอดีไหม หรือโยนลูกแก้วไป และลูกแก้วมีการกลิ้งไปมาแบบไม่หยุดไหม ซึ่งผลสรุปก็คือ การลาดเอียง สอบผ่านเป็นไปในทางที่ดี
    แต่ก็ใช่ว่าไม่มีปัญหาอะไรนะครับ โดยปัญหาก็จะมีเช่น “เกิดการพื้นยุบ” ในบริเวณขอบผนังโดยรอบห้องครับ เรียกได้ว่า ถ้าเอามือกดหรือ เอาเท้าไปยืนเหยียบก็เห็นรอยยุบได้ชัดเจน เพราะว่าถ้าพื้นมีอาการยุบ มีรอยโปร่งด้านล่าง ก็อาจจะทำให้มีแมลงเข้าไปทำรัง หรือการนำเฟอร์นิเจอร์มาวางก็อาจจะไม่โอเคได้นะครับ
    ตรวจเช็คงานพื้น ห้องนอน Master
    หลังจากที่เราเช็คพื้นที่ห้องนั่งเล่นแล้ว เราก็จะมาเริ่มที่ห้องต่อไปก็คือห้องนอน Master โดยในงานพื้นของห้องนี้ก็ปัญหาที่คล้ายๆกัน ก็คือมีการยุบ ที่บริเวณขอบผนังโดยรอบห้อง และมีส่วนที่มีการพื้นบิ่น เห็นเป็นรอยแตกชัดเจน และยังมีคราบสีเลอะบางส่วน รวมไปจนถึงมีการเก็บขอบบัวพื้นไม่เรียบร้อย ซึ่งถ้ามองกันดีๆปัญหาคล้ายๆกับห้องนั่งเล่นนั่นเอง
    ภาพ Defect งานพื้นในห้องนอน Master
    ตรวจเช็คงานพื้น ห้องน้ำทั้ง 2 ห้อง (แปะวงกลมสีส้ม)
    ในส่วนของพื้นห้องน้ำนั้นจริงๆแล้วปัญหาโดยรวมก็คือจะเป็นการยาแนว เก็บความเรียบร้อยภายในห้องน้ำซะส่วนใหญ่ เพราะยังมีส่วนที่เลอะและยังไม่เรียบร้อย เลยอยากให้เก็บยาแนวใหม่โดยรอบห้อง แต่ก็ต้องบอกว่าเรื่องของการรั่วซึมนั้น ไม่มีการเกิดเลย

    ภาพ Defect งานพื้นในห้องน้ำท้้งสองห้อง ส่วนใหญ่จะเป็นการเก็บความเรียบร้อยภายใน

    ตรวจเช็คงานผนังทั้งหมด

    เรามาถึงการเช็คงานส่วนต่อไปแล้วนะครับ โดยในงานส่วนต่อไป ก็คือการตรวจเช็คเกี่ยวกับผนังทั้งหมดนั่นเอง ตรงไหนเป็นรอยเลอะ หรือรอยร้าว ทางทีมงาน TRD ก็จะแปะมาร์กเอาไว้ พร้อมถ่ายรูปเพื่อทำสรุปส่งให้โครงการทำการแก้ไขต่อก็ถือว่ามีการส่งแก้ไขประมาณหนึ่งเหมือนกัน เดี๋ยวเรามาดูกันเลยครับ

     

    หน้าห้องบริเวณห้องครัว
    ในห้องนี้ก็จะเป็นการ “รอยเลอะ” ของสีนั่นเอง โดยที่ทาง TRD เจอจะเป็นรอยเลอะบริเวณขอบมุมประตูบานเลื่อน ซึ่งก็ถือว่าเป็นรอยใหญ่พอสมควร
    ห้องนั่งเล่น
    จริงๆแล้วถือว่าปัญหาค่อนข้างเหมือนกัน โดยยังเป็นปัญหาเรื่องของ รอยเลอะ ที่เกิดขึ้นบริเวณผนังฝั่งใกล้ระเบียง ซึ่งเกิดเป็นรอยใหญ่เห็นได้ชัด และมีอีกจุดหนึ่งในบริเวณประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียม ก็มีสีเลอะ เก็บงานไม่เรียบร้อยเช่นกัน
    ภาพ Defect งานผนังห้องนั่งเล่นและห้องครัว
    ห้องนอนทั้ง 2 ห้อง (ห้องนอน Master, ห้องนอนเล็ก)
    ในส่วนของห้องนอนใหญ่ ก็ยังเป็นปัญหาเดิมอยู่ นั่นก็คือเรื่องของ คราบเลอะ โดยในห้องนี้ก็มีคราบเลอะที่เกิดบริเวณผนังหน้าห้องน้ำ และบริเวณผนังด้านบนของหน้าต่างก็มีคราบที่เห็นค่อนข้างชัด
    ไปดูที่ห้องนอนต่อไปกันบ้าง ก็ยังเป็นปัญหาคล้ายๆกันครับ ก็คือผนังมีคราบสีเลอะ แต่ในห้องนี้ถือว่าค่อนข้างน้อยกว่า โดยรวมแล้ว งานผนังของห้องนอนก็มีแค่รอยคราบเลอะเท่านั้นครับ ส่วนอื่นๆถือว่าสมบูรณ์ดีเลย
    ภาพ Defect งานผนังห้องนอน Master
    ห้องน้ำทั้ง 2 ห้อง
    ห้องน้ำจริงๆแล้วก็ถือว่าในส่วนของงานผนังทำออกมาได้ดีเลยนะครับ อาจจะมีแค่ต้องเก็บในส่วนของการเก็บยาแนวใหม่อีกรอบ เพื่อความสวยงามเท่านั้น ไม่พบปัญหาหนักๆอื่นๆเลยในส่วนนี้

    ภาพ Defect งานผนังห้องน้ำ ส่วนใหญ่เป็นการเก็บยาแนวทั้งหมด

    ตรวจเช็คงานประตูทั้งหมด

    หลังจากที่เราได้ดูงานพื้น, งานผนังกันไปแล้วนะครับ ต่อไปเราก็จะมาเลิ่มไล่ดู Defect เกี่ยวกับ ประตู ทั้งหมด ใน้ห้องของเรากันบ้าง โดยเราก็ทำการตรวจเหมือนเราใช้งานจริงเลยครับ ลองเปิดไปมา บางจุดเหมือนจะเล็กน้อยแต่ก็เป็นสิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม จะมี Defect อะไรบ้าง เรามาเริ่มดูกันเลยครับ
    ประตูทางเข้าห้อง
    ในส่วนของงานประตูเปิดเข้าห้อง จะพบว่าที่มุมบนด้านซ้ายมือ จะมีเหมือนรอยแตกเล็กน้อย ในส่วนของบานนี้ก็มีแค่จุดเดียวครับ
    ประตูห้องนอน, ห้องน้ำ Master
    มาถึงประตูห้องนอน และประตูห้องน้ำ Master กันบ้าง ทั้งสองบานนี้นั้นที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ โดยรอบบานประตูมีรอยโดนรอบอย่างเห็นได้ชัดเลย ไม่ว่าจะเป็น ที่ขอบประตูทั้งสองฝั่ง และที่ด้านบนของขอบประตูก็มีรอยสีที่เลอะมากๆครับ ซึ่งในปัญหานี้ก็เกิดขึ้นกับประตูห้องน้ำห้องเล็กด้วยเช่นกัน

    ภาพ Defect งานผนังประตู ส่วนใหญ่เป็นรอยโดยรอบ และคราบเลอะ

    ตรวจเช็คงานอะลูมีเนียมทั้งหมด

    ในส่วนต่อไปก็เป็นจุดใหญ่อีกหนึ่งจุดครับ ที่ทางทีมงาน TRD ให้ความสำคัญ และเจอ Defect ค่อนข้างเยอะก็คือในส่วนของประตูและหน้าต่างอะลูมีเนียมภายในห้อง ซึ่งจะเจอ Defect อะไรบ้าง เราไปดูพร้อมๆกันเลยครับ
    ประตูอะลูมีเนียมที่ห้องครัว
    เริ่มจากจุดใหญ่สุดก่อนเลยครับ สิ่งที่เราเจอปัญหาแรกเลยก็คือ ไม่สามารถล็อคประตูครัวได้ ซึ่งอันนี้จริงๆแล้วมันก็ถือว่าสำคัญมากๆเหมือนกันเพราะมันเกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยด้วยเช่นกัน
    และปัญหาที่เจออีกจุดก็คือ ที่บริเวณด้านบนของอะลูมิเนียมไม่ได้มีการ “ปิดหัว” ให้ ซึ่งเราสามารถสอดนิ้ว สอดของลงไปได้เลย ซึ่งในสิ่งที่ถูกต้องนั้น ไม่ควรที่จะเป็นอย่างงั้นเพราะ การที่ไมได้ปิดหัวอะลูมีเนียม ก็อาจจะทำให้แมลงต่างๆ หรือ มดเข้าไปทำรังในอนาคตได้ครับ

    ภาพ Defect งานอะลูมีเนียม ปัญหาใหญ่ที่เจอก็คือ ไม่ได้ปิดหัวอะลูมีเนียมที่ด้านบน

    ประตูอะลูมีเนียมที่ระเบียง
    จุดที่สองของประตูอะลูมีเนียมนั้นก็คือฝั่งเชื่อมกับระเบียง ก็มี Defect ในส่วนของ ขอบยางประตูไม่เสมอกันครับ และอีกจุดก็คือไม่ได้ปิดหัวที่ด้านบนเช่นกัน

    ภาพ Defect งานอะลูมีเนียม ปัญหาใหญ่ที่เจอก็คือ ไม่ได้ปิดหัวอะลูมีเนียมที่ด้านบน

    หน้าต่างอะลูมีเนียมในห้องนอน Master
    เสต็ปต่อไปเรามาถึงภายในนอนนอนใหญ่กันบ้าง แน่นอนครับ เรายังเจอปัญหาในส่วนของการ ไม่ได้ปิดหัว ของอะลูมีเนียมที่ด้านบน อยู่เช่นกัน แต่ในห้องนี้ไม่ได้มีแค่นั้นครับ เรายังเจอ Defect อีกหนึ่งจุดก็คือ กระจกบริเวณรอยต่อนั้น “เกิดการห่างกัน” ค่อนข้างเยอะ ซึ่งจริงๆแล้วไม่น่าที่จะห่างกันได้ขนาดนี้ครับ ซึ่งก็ต้องเขียนส่งรายงานให้ทางโครงการมาทำการแก้ไขต่อไป

    ภาพ Defect อะลูมีเนียมในห้องนอน Master มีกระจกรอยแยกกว่าปกติ

    ตรวจเช็คงานห้องน้ำทั้งสองห้อง
    เราเดินทางมาถึงห้องที่สำคัญมากๆก็คือห้องน้ำกันแล้วนะครับ ซึ่งในส่วนของ Defect งานห้องน้ำ ทาง TRD เราขอเขียนเป็นสรุปออกมารวมกันเลยละกันครับ เพราะจริงๆแล้วปัญหาคล้ายกันมากๆ โดยที่เราพบก็คือ
    1.ปล๊กไฟไม่ติดทั้งสองห้อง
    2.หัวปิดน็อตชั้นวางของ ใส่ไม่ครบ
    3.ขอบผนังไม่เรียบร้อย เห็นเป็นรอยคราบเลอะอย่างชัดเจน
    4.ฝักบัวของห้องน้ำทั้งสองห้อง น้ำไหลเบามาก และมีมีน้ำรั่วออกมาด้วย
    5.ยาแนวผนังและพื้นใหม่ทั้งหมด เพื่อความสวยงาม
    และที่สำคัญนะครับ ต้องบอกเลยว่าทางโครงการจะไม่ให้ “สายชำระ” มาให้เรานะครับ โดยเราต้องไปซื้อและดำเนินการติดเอง

    ภาพ Defect ห้องน้ำ ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความเรียบร้อยทั้งหมด

    ตรวจเช็คงานระเบียง

    เราเดินทางมาถึงห้องสุดท้ายกันแล้วครับ ก็คือ “ระเบียง” ครับ โดยจริงๆแล้วถ้าเรามองกันแบบเร็วๆก็อาจจะเหมือนกับไม่ค่อยมี Defect อะไร แต่หลังจากที่เราลองมาไล่ดูกันแบบจริงจังแล้ว ก็ถือว่ามี Defect พอสมควรเลยครับ โดยในสิ่งที่เราพบก็คือ
    1.การเก็บงานของสีระเบียงทั้งหมด โดยปัญหาที่เจอคือสีไม่สม่ำเสมอกัน
    2.พิ้นต้องเก็บยาแนวใหม่อีกรอบ
    3.ไฟที่บริเวณด้านบนเกิดมีรอยร้าว
    4.ท่อไฟแอร์มีการต่อไม่เรียบร้อย
    5.ทาสีไม่สม่ำเสมอในทุกจุด (ท่อหลังแอร์, สีขอบระเบียง)
    โดยสรุป Defect ของ ระเบียง ก็จะเป็นปัญหาเรื่องของความเรียบร้อยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคิดว่าน่าจะแก้ไขได้ไม่ยากครับ ทาง TRD ก็ทำการถ่ายรูปและเขียนสรุปเพื่อส่งให้ทางโครงการแก้ไขกันต่อไป

    ภาพ Defect ระเบียง ต้องเก็บสีความเรียบร้อย และ ยาแนวใหม่อีกครั้ง

    ตรวจเช็คเฟอร์นิเจอร์ภายใน

    เราเดินทางมาถึงจุดสุดท้ายของการตรวจในวันนี้แล้วนะครับ ซึ่งเป็นส่วนของงาน เฟอร์นิเจอร์ Built-In ทั้งหมดที่ทางโครงการให้เรามา ซึ่งอันนี้เราก็ทดลองเหมือนเราเปิดใช้งานจริง ซึ่งบางจุดก็อาจจะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ถ้าเรามองลึกลงไปแล้วก็มีผลกับการใช้งานเช่นกัน โดย Defect จะพบอะไรบ้าง เราลองมาดูกันเลยครับ
    เฟอร์นิเจอร์ในห้องครัว
    ปัญหาแรกที่เราเจอเลยก็คือในห้องนี้ปลั๊กไฟเสียบไม่ติดเลยสักจุดครับ ไม่ว่าจะเป็นจุดเสียบเครื่องซักผ้า, จุดใต้เค้าเตอร์ครัว ซึ่งอันนี้น่าจะเป็นผลจากการเดินสายไฟ

    ต่อมา ก็จะเป็นในส่วนของ เค้าเตอร์ครัว โดยสิ่งที่เราเจอก็คือ ขอบมุมทั้งสองฝั่ง มีความคมมาก ซึ่งเสี่ยงก่อให้เกิดอันตรายจากการใช้งานได้ นอกจากนั้นแล้ว ยังมีเหมือนรอยแตกเล็กๆเกิดขึ้นด้วย

    จุดต่อมาที่เราพบก็คือ ในบริเวณมุมของเค้าเตอร์นั้น มีการเก็บงานบัวพื้นไม่เรียบร้อย ซึ่งอันนี้ก็เป็นจุดที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควร เรามองเข้าไปเห็นได้ชัดเลยครับ

    ภาพ Defect เฟอร์นิเจอร์ครัว ปลั๊กไฟไม่ติด ขอบเคาน์เตอร์ครัวคมมาก

    เฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่น
    ในห้องนี้ต้องบอกเลยว่าแทบไม่พบ Defect อะไรเลยครับ เนื่องด้วยเป็นห้องเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรนั่นเอง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เจอ Defect นะครับ เราก็ยังพบว่า กล่องไวไฟ ที่ติดไว้มีความหลวม โดยเราสามารถเอามือโยกขยับได้เลย ซึ่งจริงๆมันไม่ควรจะเป็นยังงั้น

    ภาพ Defect เฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่น กล่องไวไฟหลวม

    เฟอร์นิเจอร์ในนอน
    ตัดสลับมาที่ห้องนอนกันเลย ซึ่งถือเป็นห้องสุดท้ายของเราในวันนี้แล้วครับ โดยในห้องนี้เราก็เจอ Defect 2 จุดก็คือ แอร์ เหมือนจะเสียงน้ำหยดออกมาบ้าง ซึ่งอันนี้จริงๆก็อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่เราก็อยากได้ความสบายใจก็เลยให้ตรวจเช็คในจุดนี้เพิ่ม และต่อมาก็คือ สวิตส์ไฟในห้อง มีคราบเลอะจากสี ซึ่งเห็นได้ชัด แต่ในจุดอื่นๆก็เรียบร้อยดี ซึ่งเราก็เขียนและส่งให้โครงการทำการแก้ไขต่อไป

    ภาพ Defect เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอน แอร์มีเสียงน้ำหยด ปลั๊กไฟมีคราบเลอะ

    สรุปทั้งหมด

    เป็นยังไงกันบ้างครับ กับการแชร์ประสบการณ์การตรวจคอนโดด้วยตัวเอง ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆที่เราจะมองข้ามไปไม่ได้ เพราะว่า “การตรวจรับห้องที่ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง” ก็เหมือนกับการลงทุนครับ เราลงทุน เราก็อยากได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด เช่นกัน การตรวจห้องที่ดีก็ใช้หลักการเดียวกัน
    เราควรให้ความสำคัญกับการตรวจครั้งแรกให้มากที่สุด เพราะในบางโครงการอาจจะมีการเขียนไว้ในสัญญาดลยว่า “ให้ตรวจได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
    โดยถ้าเราตรวจได้ไม่ละเอียดพอ ก็อาจจะเกิดปัญหาในภายหลังที่เรียกว่า ซ่อมแบบ After Sale ซึ่งอาจจะทำให้เราควบคุมช่างได้ยากกว่าปกติ ซึ่งอาจจะทำให้เราอยู่แล้วไม่สบายใจได้นะครับ  
    ใน EP ต่อไปเราจะมาดูกันว่าหลังจากที่เราส่งมอบ Defect ไปใช้ทางโครงการแก้ไข จะแก้ไขเป็นอย่างไร ใช้เวลาในการทำนานไหม จะทำได้ตามที่เราต้องการหรือเปล่า อย่าลืมติดตามชมกันด้วยนะครับ
    สำหรับใครที่กำลังจะซื้อคอนโดเพื่ออยู่อาศัย หรือ ซื้อเพื่อการลงทุน ก็อาจจะลองใช้วิธีเช็คตามที่ทาง TRD ทำ และลองไปตรวจให้ละเอียด ใช้เวลาในโครงการให้คุ้มค่า เพื่อให้เราได้ห้องที่ตรงตามที่เราต้องการนะครับ
    สำหรับวันนี้ ขอตัวลาไปตรวจเช็คห้องเพิ่มอีกหน่อยนะครับ และพบกันใหม่ใน EP หน้า วันนี้สวัสดีครับ

    Leave a Comment

    อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

    Scroll to Top