— แด่ผู้เชี่ยวชาญ นักวิเคราะห์หุ้น นักเศรษฐศาสตร์ นักวิจารณ์ —
ตั้งแต่ Steve Jobs กลับมาสู่ Apple อีกครั้ง เมื่อปี 1997 ซึ่งในเวลานั้นน้อยคนนักจะเชื่อว่า Apple อาจจะล่มสลายในอีก 6 เดือน ถึง 1 ปี
คำวิจารณ์ได้ถาโถมเข้าสู่ Apple อย่างมากมายจาก Guru นักวิจารณ์ทั้งหลายในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน IT นักวิเคราะห์หุ้น รวมถึงนักเศรษฐศาสตร์ ต่างก็กล่าวโจมตี Apple ทั้งในเรื่องของ ผลิตภัณท์ สิ่งแวดล้อม การใช้แรงงานในประเทศจีน ของ Supply Chain การเลี่ยงภาษี ไม่ทำกิจการการกุศล ฯลฯ
แต่พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่อย่าง Jobs ก็เปรียบเสมือน ‘Albus Dumbledore’ เขาได้ร่ายมนต์สร้างผลิตภัณท์พลิกโลกมากมาย อาทิ iMac iPod iTune iPhone iPad etc… แถมราคาหุ้น Apple ก็กลับขึ้นมาสูงเกือบ 100 เท่า ภายในระยะเวลาแค่ 14 ปีเท่านั้น (ยังไม่รวมปันผลระหว่างทาง)
Jobs เขาอาจจะไม่ได้ทำกิจกรรมการกุศล ดังคำกล่าวที่เขาเคยบอกไว้ว่า
” บุญสูงสุดที่เค้าจะทำได้ นั่นคือการเพิ่มมูลค่าของ Apple ให้สูงที่สุด เพื่อที่ผู้ถือหุ้นจะได้มีเงินมากขึ้น และจะได้เอาไปบริจาคให้การกุศลตามใจปราถนา ” ถึงกระนั้น คนทั้งโลกก็คงปฎิเสธไม่ได้ว่าผลิตภัณท์ของเขามีส่วนช่วยเหลือผู้คนบนโลกมากมายขนาดไหน
แม้ว่า Warren Buffett จะเข้าซื้อหุ้น Apple หลังจาก Jobs จากไปแล้วราวๆ 4-5 ปี แต่มูลค่าหุ้น Apple ที่ขึ้นมาตลอดทาง ก็จะกลายเป็นส่วนนึงของการกุศลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกจาก คุณปู่ บัฟเฟตต์ นั่นเอง…
Tim Cook ผู้สืบทอดกิจการ Apple ต่อจาก Jobs ผู้ซึ่งแตกต่างจากนายเก่าของเขาโดยสิ้นเชิง เขาถูกวิจารณ์อย่างหนัก ใน 1-2 ปีแรก ว่าจะเป็นผู้พา Apple เข้าสู่การเปลี่ยนผ่านครั้งยิ่งใหญ่จากยุคสูงสุด มาสู่ยุคตกต่ำ…
Tim Cook ถูกวิจารณ์ในแทบทุกข้อ จากทุกประเภทบุคคลที่ Jobs เคยโดน แถมยังหนักหนากว่ามากด้วย
แต่วันนี้ Cook กลับพา Apple ทยานสู่อนาคตใหม่ที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าที่ Jobs เคยทำได้ด้วยซ้ำไป
นอกจากเรื่องผลิตภัณท์ที่พัฒนาไม่หยุดยั้ง วันนี้ Apple ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดีที่สุด ทั้งในเรื่องการดูแลพนักงาน รวมถึง Supply Chain การดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมจากพลังงานสะอาด รวมถึงงานด้านการกุศลอีกด้วย
หุ้น Apple ขึ้นต่ออีก 15 เท่าใน 12 ปี (ยังไม่รวมปันผลระหว่างทาง)
ซึ่งมันยากมากๆ กับบริษัทที่ ณ วันนั้นก็แทบจะใหญ่สุดในโลกแล้ว แต่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนกลายมาเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก แบบไร้คู่ต่อกร
Jobs และ Cook ต่างน้อมรับคำวิจารณ์ทั้งหมด (แม้ Jobs เองมีบุคลิกที่แข็งแกร่ง ไม่ยอมใครง่าย) ทั้งคู่พาบริษัทฯ ฝ่าฟันทุกคำวิจารณ์ ไปสู่อนาคตใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า และยังคงดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนที่ Jobs ชอบพูดว่า ” ดีบ้าเลือด”
หากทั้งคู่เชื่อคำวิจารณ์ไปทั้งหมด วันนี้เราคงไม่มีสุดยอดผลิตภัณท์ตระกูล ” i ” ทั้งหลาย คงไม่มีผลิตภัณท์ที่สามารถเปลี่ยนโลกได้ครั้งแล้วครั้งเล่า และก็ไม่รู้ว่าเหล่านักวิจารณ์ทั้งหลายมีชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง
หากพวกเขาเหล่านักวิจารณ์ยังโชคดีพอจะมีหุ้น Apple ติดพอร์ตไว้บ้าง
บางทีวันนี้พวกเค้าอาจเปลี่ยนจากนักวิจารณ์เป็น “เศรษฐี” แล้วก็เป็นได้