พาชิมและทำความรู้จัก DECAF COFFEE กาแฟที่แม้แต่คนที่ต้องจำกัดปริมาณคาเฟอีนก็ยังทานได้

ทำความรู้จักกับกาแฟทางเลือก สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟ แต่ไม่ต้องการคาเฟอีนอย่าง Decaf Coffee พร้อมรีวิวรสชาติเหมือนหรือต่างจากกาแฟแก้วเดิม

ใจสั่นทุกครั้งที่ดื่มกาแฟ แต่ก็ดันชอบกลิ่นกาแฟเอามากๆ สายกาแฟ Lover ผู้ดื่มด่ำกลิ่นรสสัมผัสกาแฟชนิดที่ว่าดื่มแก้วเดียวไม่เคยพอ หรืออยากดื่มกาแฟหอมๆ ร้อนๆ ก่อนนอนพักผ่อนสบายๆ แต่ไม่ต้องการคาเฟอีน
” ร่างกายบอกรับไม่ไหวแต่ใจรักขนาดนี้ กาแฟ non คาเฟอีน อย่าง Decaf Coffee ตอบทุกโจทย์ที่ต้องการได้แน่นอน “
เรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะว่า กาแฟ Decaf เนี่ย คืออะไร มากจากไหน คิดว่าทุกๆคนที่ยังไม่รู้จักกาแฟ Decaf ก็คงจะงงๆ เมื่อได้ยินครั้งแรกว่า ” เอ..กาแฟที่ไมีมีคาเฟอีน เป็นยังไงนะ ” ภาพจำของหลายๆคนก็คือ กินเพื่อเติมความสดชื่น ปลุกร่างกายให้ Fresh และกระปรี้กระเปร่า แล้วกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนล่ะเป็นยังไง
Decaf Coffee เนี่ย จะเรียกว่า Non คาเฟอีนซะทีเดียวก็คงไม่ถูก เพราะตัว Decaf จะนำเมล็ดกาแฟไปสกัดเอาในส่วนของคาเฟอีนออกจนเกือบหมด คือมันอาจจะไม่ได้หมดแบบ 100% อะไรขนาดนั้น ยังมีหลงเหลืออยู่บ้าง แต่ปริมาณน้อยมากๆจนไม่มีผลต่อร่างกายเลย และที่สำคัญเนี่ย รสชาติของ Decaf Coffee เหมือนกาแฟที่มีคาเฟอีนปกติเลย ยังคงรูปแบบที่ยังเป็นเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟนั้นๆได้ ทั้งรสชาติ กลิ่น ความหอมเฉพาะไว้ได้อย่างดี แต่ถ้าเป็นคอกาแฟตัวจริงที่เสพย์กลิ่นและรสแบบแฟนพันธุ์แท้เลยเนี่ย อาจจะสัมผัสได้ถึงความต่างนิดหน่อย แต่ยังไงก็รับรองได้ว่าไม่มีขัดใจแน่นอน
อย่างที่บอกว่า Decaf coffee หรือชื่อเต็มๆก็คือ Decaffeinated Coffee เป็นกาแฟทางเลือกใหม่สำหรับคอกาแฟที่เอาใจใส่เรื่องของสุขภาพ ที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ ตัว Decaf เนี่ย ไม่ได้เพิ่งมีนะ เรียกว่ามีมาก่อนเราเกิดกันเลยทีเดียว เพราะถือกำเนิดเมื่อ 200 ปีมาแล้ว และมีการ เริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปี 1906 โดยประเทศเยอรมัน จากนั้น Decaf Coffee ก็ค่อยๆขยับขยายไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในชนิดที่ว่า ถ้าเราไปที่คาเฟ่ต่างประเทศ แล้วเราสั่ง Decaf Coffee พนักงานก็จะเข้าใจได้ในทันที แบบอ๋อๆโอเคไปกับเราเลย แล้วก็มีขายกันเกือบทุกคาเฟ่
แต่ในมุมของประเทศเรา กาแฟชนิดนี้แต่อาจจะยังไม่เป็นที่นิยมในสักเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่ไม่มีขายนะ ตาม Supermarket บ้านเราเนี่ยมีเยอะมากๆ หลากหลายยี่ห้อเลย มีชนิด สไตล์ รสชาติ และเมล็ดกาแฟแบบ Decaf ให้เลือกเหมือนกาแฟทั่วไปหาซื้อได้ง่ายมากๆ แต่ในคาเฟ่ทั่วๆไป ตัวเลือกของ Decaf อาจจะไม่ได้มีทุกที่ เราอาจจะต้อง Walk in ไปที่ร้านแล้วถามที่ร้านว่ามีไหม เพราะบางร้านอาจจะไม่มีในเมนู แต่มี Decaf จำหน่ายก็มี ให้เราเลือกเปลี่ยนตัวเลือกกาแฟที่เป็น Decaf แทนได้

มาดู Coffee Decaf จากแบรนด์หาซื้อง่าย อย่าง Starbucks และ Dean & Deluca กันดีกว่านะคะว่า ในเรื่องของรสชาติ กลิ่น รสสัมผัส เหมือนหรือแตกต่าง ทดแทนกาแฟแก้วเดิมๆได้ไหม

ตัว Decaf Coffee จากร้าน Dean & Deluca ที่เลือกมาพูดถึงในวันนี้เพราะค่อนข้างชอบตัวเลือกในการสั่ง Delivery ที่สามารถเปลี่ยนเป็น Decaf ได้เลยในทุกเมนูกาแฟ สามารถเลือกกาแฟเมนูโปรดแบบ Decaf ได้สบายๆ กินตอนบ่ายชิลๆ แบบไม่ต้องกลัวว่าคืนนี้จะนอนไม่หลับ วันนี้ก็เลยสั่งมา 2 แก้วด้วยกัน เป็น Ice Latte กับ Ice Americano
เดี๋ยวเรามาพูดถึงรสชาติ กลิ่น ความรู้สึก เมื่อเทียบกับกาแฟปกติว่า เป็นยังไงกันบ้าง ขอเล่ารีวิวด้วยความรู้สึกส่วนตัวของผู้เขียนเองนะคะ
สำหรับตัว Decaf ของ Dean & Deluca โดยรวมแล้วเหมือนกาแฟปกติเลย คือไม่ได้มองเห็นความต่างระหว่าง Decaf กับกาแฟปกติ เหมือนกับว่า ถ้ามีคนซื้อมาฝากตอนกลางคืนโดยที่ไม่รู้ว่าเป็น Decaf ก็คงกำลังนั่งกังวลแล้ว ว่าดื่มตอนนี้จะนอนตอนไหนดี เพราะแยกรสไม่ออกเลย คงคิดว่ากาแฟทั่วไปแน่นอน
ส่วนในเรื่องกลิ่นสัมผัสหรือความหอม ก็คือหอมกาแฟมากๆ โดยเฉพาะตัว Americano Decaf หอมมากจริงๆ รสชาติก็อาจจะบางกว่า Americano ปกตินิดหน่อย คล้ายๆกับเป็น Americano ที่เจือน้ำเพิ่มอีกนิดนึง คือเป็นความรู้สึกเล็กน้อยจริงๆ ไม่ได้ขัดใจอะไรเลย กินแทน Americano ปกติได้สบายๆ
ส่วนตัว Latte ของ Dean & Deluca แก้วโปรดของเราจะเป็น Ice Dulce cafe Latte ตัวนี้ก็จะเป็น ช็อต Espresso Decaf ที่ผสมเข้ากับนมข้นจืด นมข้นหวานมัน และนมสดเย็น บอกเลยว่าแก้วนี้ดื่มแล้วอยากดื่มอีก 2 แก้ว ด้วยความที่เป็นกาแฟแก้วโปรด รสชาติแบบ Thai Style แน่นอนว่าในส่วนของรสชาติ ถูกอกถูกใจผู้เขียนมากๆ แล้วตัวนี้พอเป็น Decaf Latte แล้ว ไม่รู้สึกถึงความต่างเลย สำหรับตัวนี้บอกเลยว่า ไม่สามารถแยกออก ว่าแก้วไหนคือ กาแฟปกติที่มีคาเฟอีน กับกาแฟสกัดคาเฟอีนอย่าง Decaf
Decaf Latte 2 แก้วนี้ ของ Dean & Deluca ยังคงความหอมของกาแฟไว้เป็นอย่างดีเลย แล้วด้วยความที่เป็น Latte ความนุ่มความหอม ความละมุนของรสชาติกาแฟกับนม มันเข้ากันมากจริงๆ อร่อยจนอยากดื่มมากกว่า 1 แก้ว

มาดูกาแฟ Decaf อีกค่าย จาก Starbucks กันบ้างดีกว่า

มาต่อกันที่กาแฟ Decaf ของแบรนด์ยอดฮิตติดตลาดอย่าง Starbucks นะคะ ของ Starbucks เนี่ย ในส่วนของการสั่งจาก Food Delivery ต่างๆเนี่ยเค้าก็จะมีตัวเลือก Decaf เหมือนกันนะ แล้วก็ไม่มีบวกเพิ่มด้วย ราคาเท่าเดิมเลย ตรงนี้คือดีมากๆเลย
แต่รีวิวนี้ผู้เขียนไปสั่งที่ร้านยามบ่ายแก่ๆเลย มีเพื่อนช่วยชิมเยอะเลย
  • แก้วแรก ผู้เขียนเลือกสั่ง Latte แบบ Decaf
  • แก้วที่ 2 ก็จะเป็น Decaf Latte เช่นเดียวกันกับแก้วที่หนึ่ง แต่เปลี่ยนนมเป็น Soy Milk บอกก่อนเลยว่า Starbucks เนี่ย ในเมนูเข้าจะมีตัวเลือก Decaf ให้กับผู้ไม่ต้องการคาเฟอีน และสามารถเปลี่ยนนมวัว เป็นนมจากพืชได้ สำหรับผู้ที่แพ้นมวัว ผู้ที่รักสุขภาพ หรือทาน Plant Base ในส่วนของนมที่ให้เลือกเปลี่ยน ก็จะมีเป็น Soy Milk ต้องบวกเพิ่ม 15 บาท Oat Milk บวกเพิ่ม 25บาท และ Almond Milk บวกเพิ่ม 25 บาทเช่นเดียวกัน ตัวเลือกและราคาที่บวกเพิ่มบนแอพ Food Delivery ก็ราคานี้เลย ลองสั่งมาทานกันได้นะคะ
  • ในส่วนของแก้วที่ 3 ก็จะลอง Decaf แบบ เข้มๆ เทียบรสชาติกาแฟซะหน่อย เลยเลือกเป็นตัว Americano ในแบบ Decaf มาลองอีก 1 แก้ว
ชิมกาแฟหอมๆทั้ง 3 แก้วแล้วเนี่ย เรามาพูดถึงรสชาติ Decaf Coffee ของ Starbucks กันดีกว่าว่าเป็นยังไงเหมือนกาแฟมีคาเฟอีกปกติแค่ไหน แทนกันได้รึเปล่า

มาเริ่มที่ Decaf Latte แก้วที่ 1 กันเลย

แก้วนี้บอกเลยว่า ปกติมาก คือเป็นความรู้สึกที่ไม่สามารถบอกได้ว่า กาแฟแก้วไหนเป็นแก้วไหน คือถ้าวางแก้ว Latte ปกติ กับ Decaf Latte ไว้ด้วยกันแล้วเลือกชิม ก็คงตอบผิดตอบถูกกันแน่นอน สร้างความสับสนได้เลย แก้วไหนกันแน่นะที่ไม่มีคาเฟอีน เพราะฟีลลิ่งที่ได้จากแก้วนี้คือ ความหอมอร่อยแบบ Latte แก้วเดิมๆที่เราเคยกินเป็นประจำ นุ่มละมุน และหอมกลิ่นกาแฟสุดๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องความต่างแน่นอน ถ้ากินเพราะต้องการรสชาติ ไม่ต้องการคาเฟอีน เรียกว่า แทนกันได้จริงๆ

มาต่อกันที่แก้วที่ 2 Decaf Latte add Soy Milk

แก้วนี้ถ้าให้พูดถึงฟีลลิ่งของ Decaf ก็ไม่ต่างจากแก้วแรกเลย คือรู้สึกว่าสามารถแทนกาแฟที่มีคาเฟอีนได้สบาย แต่ความต่างของตัวนี้ก็น่าจะเป็นการใส่ Soy Milk เข้าไปแทนนมวัวปกติ ซึ่ง Soy Milk ของ Starbuck เนี่ย ก็จะมีกลิ่นของถั่วเหลืองบ้าง แต่ไม่มาก เมื่อกลบด้วยกลิ่นกาแฟ ก็ดีกว่าที่คิดตรงที่ ฟีลลิ่งที่ได้ ไม่ได้แสดงออกถึงความเป็น Soy Milk ขนาดนั้น คือเปลี่ยนจากนมวัว แต่รสชาติไม่ได้เพี้ยนไปจากเดิมมาก มีความคล้ายคลึงกันกับ Latte ที่ใส่นมวัว แต่มีกลิ่นของถั่วเหลืองปนมาเล็กน้อย แต่ยังคงความหอมกาแฟเหมือนเดิมสำหรับผู้เขียน
แต่ถามความรู้สึกจากเพื่อนที่ชิมด้วยกัน มีส่วนที่ตรงกันก็คือ ไม่รู้สึกถึงกลิ่นนมถั่วเหลือง แต่รู้สึกว่า รสสัมผัสต่างกันเล็กน้อย ตรงที่นมถั่วเหลืองจะไม่เป็นเนื้อเดียวกันแบบนมวัวเลยซะทีเดียว จะมีความรู้สึกถึงรสสัมผัสแบบนมถั่วเหลืองอยู่ ซึ่งน้อยมากจริงๆนะ ไม่ได้ทำให้รสชาติหรือกลิ่นเพี้ยนจากปกติ เรียกได้ว่าถ้าไม่ถูกกับคาเฟอีน และเป็นคนที่กิน Plant Base หรือแพ้นมวัว จะยังได้รับรสชาติแบบ Latte Starbucks จริงๆอยู่ดี แต่จะเพิ่มกลิ่นของถั่วเหลืองเข้ามาเล็กน้อยเท่านั้นเอง

แก้วที่ 3 Decaf Americano

มาพูดถึงแก้วสุดท้ายของบทความนี้อย่าง Decaf Americano จาก Starbuck กันดีกว่านะคะ ที่สั่งแก้วนี้มาเพราะว่าตั้งใจมากๆที่จะแยกระหว่าง americano แบบ Decaf และ Americano แบบปกติว่าต่างหรือไม่อะไรยังไง แต่หลังจากชิมแล้วนั้น ก็กลับรู้สึกว่า เอ๊ะ แล้วต่างกันตรงไหนนะ แยกไม่ออกจริงๆ ชิมแล้วชิมอีก กลิ่นรสต่างๆ ไม่มีดรอปเลย รสเข้ม มีกลิ่นหอมของกาแฟปกติ ไม่มีความต่างให้ได้สังเกตเลย ดื่มด่ำกับรสชาติ Americano หอมๆแบบ ต้นฉบับของ Starbucks ได้สบายๆ ไร้คาเฟอีนแน่นอน
โดยรวมแล้วเนี่ย Decaf ของ Starbucks ก็คือทำได้ดีมากเลยทั้งในกลิ่นและรสชาติ แล้วทางแบรนด์ Starbucks ก็มีเมนูแบบ Decaf มานานแล้วด้วย ไปที่สาขาไหนก็สามารถหาซื้อ Decaf Coffee ได้ง่าย ทุกเมนูกาแฟก็สามารถเปลี่ยนกาแฟเป็น Decaf ได้เลย แบบไม่ต้องบวกเงินเพิ่ม ถ้าผู้อ่านอยากลองความต่างของ Decaf coffee กับกาแฟปกติ ก็ลองสั่งมาชิมกันดูนะคะ

มาถึงตอนท้ายแล้ว หลังจากชิมกาแฟแล้วชิมกาแฟอีก ก็ยิ่งรู้สึกว่า ความหอมอร่อยแบบนี้แหละ ที่ทำให้เราเข้าใจ ว่า “ กาแฟที่อร่อยจะให้ดื่มแก้วเดียวต่อวัน คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเอามากๆ ”

และนี่ก็คงเป็นเหตุผลที่ทำไมต้องมี Decaf Coffee ออกมาจำหน่ายกัน เพราะผู้ที่รักในกลิ่นและรสชาติของกาแฟ แต่ Sensitive กับคาเฟอีนก็จะได้ดื่มด่ำในรสชาติดีดีได้ทุกเมื่อ
ในบางคนที่ต้องลดคาเฟอีนลงเพราะเหตุผลทางสุขภาพ จะได้ลิ้มรสสัมผัสของกาแฟที่คุ้นเคยแบบไม่ต้องกังวลเรื่องปริมาณคาเฟอีน คนที่รักการเสพย์รสชาติของกาแฟ ไม่ว่าจะกินกี่แก้วก็ยังนอนหลับสบาย
เหตุผลเหล่านี้แหละที่ทำให้ Decaf Coffee เป็นหนึ่งในกาแฟทางเลือกที่นิยมกันมาอย่างยาวนาน
ถ้าผู้อ่าน อ่านจบแล้วอย่าลืมไปลองชิม Decaf Coffee ที่คาเฟ่โปรดของคุณดูนะคะ เหมือนหรือต่างยังไงแวะมาคุยและเปลี่ยนกับเราได้
สำหรับวันนี้ผู้เขียนขอตัวลาไปจิบกาแฟกรุ่นๆยามเย็นก่อน
ขอบคุณผู้อ่านทุกท่าน ที่อ่านบทความของพวกเรามาจนถึงย่อหน้าสุดท้าย
ไว้พบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ

Leave a Comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Scroll to Top